คําประพันธ์ประเภทร้อยแก้วและร้อยกรอง
- คําประพันธ์ประเภทร้อยแก้ว
การนําถ้อยคํามาเรียบเรียงให้เป็นข้อความที่สละสลวย ด้วยการคัดสรรค์และสํานวนมาใช้อย่างเหมาะสม ทําให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกคล้อยตามหรือเกิดจินตนาการตามจุดประสงค์ของผู้เขียน เรียกว่า คําประพันธ์ประเภทร้อยแก้ว พบในวรรณคดีและวรรณกรรม
เช่น เรื่อง ราชาธิราช ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)
เช่น ตอน กําเนิดมะกะโท
เรื่อง นากพระโขนงที่สอง พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในการอ่านคําประพันธ์ประเภทนี้ ทั้งอ่านในใจและอ่านออกเสียง ควร ระวังการอ่านเว้นวรรคตอนให้ถูกต้อง เพื่อจะทําให้เข้าใจความหมายของข้อความ ชัดเจน เช่น
นางฟ้าตอบ พร้อมกับพาขวัญข้าวเดินไปชมดอกไม้ ไม่อ่านเป็น
นางฟ้าตอบพร้อมกับพา ขวัญข้าวเดินไปชมดอกไม้
ทุกคนต้องประพฤติธรรม ตามหน้าที่ตามฐานะของตน จึงจะทําให้หมู่คณะเรียบร้อยและรุ่งเรือง
ไม่อ่านเป็น
ทุกคนต้องประพฤติ ธรรมตามหน้าที่ ตามฐานะของตน จึงจะทําให้หมู่คณะเรียบ ร้อยและรุ่งเรือง
- คําประพันธ์ประเภทร้อยกรอง
คําประพันธ์ประเภทร้อยกรอง เป็นการนําคําคล้องจองมาร้อยเรียงตามลักษณะบังคับของคําประพันธ์รูปแบบต่าง ๆ ซึ่งกําหนดจํานวนคํา วรรค และสัมผัสที่แตกต่างกัน ร้อยกรองมีหลายประเภท ได้แก่ กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ ร่าย พบในวรรณคดีและวรรณกรรม เช่น กาพย์พระไชยสุริยา กลอนเสภา เรื่อง ขุนช้างขุนแผน โคลงโลกนิติ สามัคคีเภท คําฉันท์ ร่ายยาว มหาเวสสันดรชาดก
- ประเภทของกลอน
กลอนมีหลายชนิด มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน
ถ้าเรียกชื่อตามจํานวนคําในวรรคก็มี เช่น กลอน ๖ กลอน ๘
ถ้าเรียกชื่อตามที่ใช้ขับร้องก็มี เช่น กลอนบทละคร กลอนสักวา กลอนเสภา กลอนดอกสร้อย ฯลฯ
กลอนสุภาพนั้น เรียกกันทั่วไปว่า กลอนตลาด บางตําราว่ากลอน สุภาพ คือ เฉพาะกลอน ๘
- ตัวอย่าง กลอน ๖
ลิ่ว ลิ่ว ลอยล่องท่องฟ้า นภาเปิดทางกว้างใส
ผ่านเมฆปุยขาวเป็นใย ชื่นใจลมผ่านผิวกาย
มองไปเห็นทุ่งนากว้าง เวิ้งว้างกระไรใจหาย
ขวามือมีแสงพรรณราย คล้ายคล้ายร่างงามทรามวัย
- ตัวอย่าง กลอน ๘
เห็นดอกไม้ในสวนล้วนงามยิ่ง ราวกับสิ่งประดิษฐ์คิดเสกสรร
สีสวยสดแซมสลับจับกลุ่มกัน เป็นช่อชั้นห้อยระย้าช่างน่ามอง
ยื่นมือไปอยากจับก็กลัวแตก กลีบเจ้าหักก้านแยกคงหม่นหมอง
ขอแตะนิดตั้งใจหมายประคอง ดอกลีบกลับนุ่มราวต้องดอกไม้จริง
การแต่งกลอน ๘
เสียงวรรณยุกต์ มีข้อบังคับการใช้เสียงวรรณยุกต์ ดังนี้
๑) คําสุดท้ายวรรคสดับ ใช้ได้ทุกเสียง แต่ไม่นิยมเสียงสามัญ
๒) คําสุดท้ายวรรครับ ใช้เสียงเอก โท หรือจัตวา
๓) คําสุดท้ายวรรครองและวรรคส่ง ใช้เสียงสามัญ หรือตรี
ในการแต่งคําประพันธ์ร้อยกรองทุกชนิด นอกจากผู้แต่งต้องเข้าใจ ลักษณะบังคับดังกล่าวแล้ว จะต้องรู้จักเลือกใช้คําให้หลากหลาย เพื่อให้เกิด ความไพเราะและช่วยในการรับส่งสัมผัส หากใช้คําหนึ่งแล้วไม่อาจสัมผัสกันได้ ก็ใช้อีกคําหนึ่ง ซึ่งมีความหมายเดียวกัน เช่น