Course Content
ภาษาต่างประเทศ อ16101 ประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1
About Lesson

Present simple Tense

คือ ปัจจุบันกาลแบบเรียบง่าย เป็นเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

     หลักการใช้ Present simple tense มีดังนี้คือ

    1.ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นความจริงหรือข้อเท็จจริงโดยทั่วๆไปหรือความจริงตามธรรมชาติ

      เช่น – She goes to work by bus.

             – The earth moves around the sun.

             – The sun sets in the west and rises in the east.

2.ใช้กับเหตุการณ์ที่ทำเป็นประจำหรือเป็นกิจวัตร รวมถึงนิสัย

    เช่น – He watches television every night.

           – Children drink milk every day.

3.ใช้ในการแสดงความคิดเห็นหรือความชอบ

    เช่น – We love our school.

           – Jack likes Thai food.

4.ใช้กล่าวถึงตารางเวลาต่างๆ

     เช่น – Train arrives at the train station every 1 hours.

คำบอกเวลา

คำบอกเวลาที่เรามักเจอท้ายประโยคคือ

-every day ทุกๆวัน

-every week ทุกๆสัปดาห์

-every month ทุกๆเดือน

-every night ทุกๆคืน

-every year ทุกๆปี

-every morning ทุกๆเช้า

Adverbs of Frequency

ใช้บอกการแสดงความถี่ของการกระทำนั้นๆ จะวางไว้หน้าคำกริยามีคำว่า

always สม่ำเสมอ 100 %

usually เป็นประจำ 80%

often บ่อยๆ 60%

sometimes บางครั้งบางคราว 30%

seldom นานๆครั้ง 10%        never ไม่เคย 0%

โครงสร้างประโยคบอกเล่า

Subject + Verb1 + Object

He, She, It, ชื่อคน สัตว์ สิ่งของ (1) + verb 1 ( เติม s ,es )

I , You, We, They, ชื่อคน สัตว์ สิ่งของ (2 ขึ้นไป) + verb1

*หมายเหตุ*ให้นักเรียนสังเกตุว่าถ้าประธานเป็นเอกพจน์คือ He ,She, It, Mark, A dog

 คำกริยาที่นักเรียนใช้ ต้องเติม s, es ท้ายคำกริยา

การเติม s, es หลังคำกริยา โดยมีหลักดังนี้

1.คำกริยาทั่วๆไปเติม s เช่น drink-drinks, walk-walks,

 eat-eats

2.คำกริยาที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x, oให้เติม es เช่น watch-watches,wash-washes, miss-misses, go-goes

3.คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y มี 2 กรณีคือ

   – ถ้าหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es

      เช่น cry-cries, study-studies, fly-flies

  – ถ้าหน้า y เป็นสระ (a,e,i,o,u)ให้เติม s เช่น play-plays,

     buy-buys, enjoy-enjoys

 สิ่งที่ควรจำคือ

  1. ถ้าประธานเป็นเอกพจน์(He,She, It) คำกริยาเติม s, es
  2. ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ (I, You, We, They) คำกริยาไม่เติม s, es

โครงสร้างประโยคคำถาม ( Present simple Tense )

เมื่อเราต้องการทำประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคคำถาม เราต้องใช้

Verb to do เข้ามาช่วยก็คือ Do กับ Does

                 Do/Does + subject + verb 1 + object + ?

Does + he, she, it ,นามเอกพจน์ + verb 1 + object + ?

Do + I, you, we, they, นามพหูพจน์ + verb 1 + object + ?

*ข้อสังเกต* ถ้าเราใช้ Does เข้ามาช่วยแล้วกริยาต้องเป็นช่อง 1 เหมือนเดิม

                     เราไม่ต้องเติม s, es

 *เราตอบคำถามแบบนี้โดยการใช้ Yes กับ No

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ ( Present simple tense)

เมื่อเราต้องการทำประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคปฏิเสธ เราต้องใช้

Verb to do เข้ามาช่วยก็คือ do กับ does

       Subject + don’t / doesn’t + verb1 + object

He, She, It, Jim , นามเอกพจน์ + does + not + verb 1 + object

I, You, We, They , นามพหูพจน์ + do + not + verb 1 + object

*ข้อสังเกต* ถ้าเราใช้ does เข้ามาช่วยแล้วกริยาต้องเป็นช่องที่ 1 เหมือนเดิม

                     เราไม่ต้องเติม s, es

รูปย่อ does not = doesn’t

           do not = don’t

0% Complete