ช้อนกลางสร้างสุขภาพ

สรุปใจความสำคัญ

               พ่อกับแม่พาภูไปร่วมงานแต่งงานของแตง ซึ่งเป็นญาติทางแม่ งานเลี้ยงครั้งนี้จัดแบบบุฟเฟต์ ทุกคนต้องตักอาหารด้วยตนเอง แม่สอนภูว่า ควรตักอาหารให้พอดี อย่าตักมามากจนล้นจาน เพราะจะทำให้เสียของต้องเหลือทิ้ง และเป็นเรื่องน่าอับอาย

                ผู้คนจะมองว่าเราตะกละ ถ้ายังไม่อิ่มก็สามารถลุกไปตักใหม่ได้ เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ภูขอไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่นอกห้องจัดเลี้ยง และต้องเดินผ่านระเบียงที่มีโต๊ะอาหารแยกมาเพียงโต๊ะเดียว มีทั้งคนนั่ง และยืนรับประทานเป็นกลุ่มใหญ่ ส่งเสียงเอะอะเฮฮา บนโต๊ะเต็มไปด้วยจานที่มีอาหารพูนจาน ภูเห็นพี่สินเพื่อนบ้านอยู่ที่โต๊ะนั้นด้วย แต่ละคนใช้ช้อนของตนเองตักอาหารจากบนโต๊ะ บางคนใช้ช้อนเสร็จก็วางพาดไว้ที่ขอบจาน บางคนเลียข้อนจนเกลี้ยงก่อนวาง แก้วน้ำก็มีเพียง ๒ – ๓ ใบ ใช้เวียนกันภูเห็นแล้วรู้สึกพะอืดพะอมมาก

                ไม่นานหลังจากนั้น พ่อกับแม่ก็เล่าให้ฟังว่า พี่สินป่วย เข้าโรงพยาบาล เพราะเป็นโรคไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ภูเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้พ่อกับแม่ฟัง ทั้งหมดสันนิษฐานว่า การกินอาหารร่วมกันกับผู้อื่นโดยไม่ใช้ช้อนกลาง เป็นสาเหตุที่ทำให้พี่สินต้องป่วย พ่อกับแม่อธิบายให้ภูฟังถึงความสำคัญของการใช้ข้อนกลาง ซึ่งเป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดี

อ่านเสริม

 ไวรัสตับอักเสบ

         ข้อมูลทางการแพทย์เกี่ยวกับการเสียชีวิตของผู้ป่วย โรคหนึ่งที่มีการ เสียชีวิตสูง คือ มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ มีสาเหตุมาจากการป่วยเป็นโรค ไวรัสตับอักเสบมาก่อน โรคไวรัสตับอักเสบ เกิดได้จากหลายสาเหตุ         ส่วนใหญ่เกิดจากการ ติดเชื้อไวรัสที่อาจจะติดต่อผ่านทางเลือด ทางน้ำลาย ทางเพศสัมพันธ์ และ จากแม่สู่ลูก

         การติดต่อผ่านทางน้ำลาย เกิดขึ้นได้ง่ายจากการที่รับประทานอาหาร ร่วมกันโดยไม่ได้ใช้ช้อนกลาง หลายคนเห็นความสําคัญของการใส่ช้อนกลาง ในจานอาหาร ไม่ว่าจะรับประทานอาหารในบ้าน ที่โรงเรียน ที่ทํางาน หรือร้านอาหาร และอยากจะให้ทางกระทรวงสาธารณสุขออกกฎให้ร้านอาหารต้อง ใช้ช้อนกลาง เพื่อความปลอดภัยจากโรคต่าง ๆ ที่ติดต่อผ่านน้ำลาย

        โรคตับอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส ที่พบบ่อยมี ๓ ชนิด คือ ไวรัสตับ อักเสบ เอ บี และซี

         ไวรัสตับอักเสบ เอ เป็นโรคที่พบมากโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ๆ และ จะมีอาการของโรคเพิ่มขึ้นตามวัย จนถึงวัยหนุ่มสาว อาการเริ่มต้นของโรคนี้ คือ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ต่อมา อีก ๓-๕ วัน จะเริ่มมีปัสสาวะสีเข้ม ตาเหลือง ตัวเหลือง ปวดท้องบริเวณ ชายโครงขวา ระยะฟักตัวประมาณ ๖ วันถึง ๖ สัปดาห์ เมื่อเป็นแล้วจะหายขาด ไม่เป็นซ้ำอีกวิธีการรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ และเป็นโรคที่ต้องการการพักผ่อนมากๆ

         ไวรัสตับอักเสบ บี เป็นโรคที่เป็นปัญหาสําคัญทางสาธารณสุขของ ประเทศไทย เพราะมีประชากรบางส่วนที่เป็นพาหะของโรคนี้ เนื่องจากเชื้อไวรัส จะอยู่ในเลือดและตับต่อไปอีกหลายปี หรือตลอดชีวิต คนกลุ่มนี้จะเป็นพาหะของเชื้อ สามารถแพร่กระจายไปสู่คนอื่น ๆ ได้ โดยทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด นอกจากนี้ยังอาจได้รับเชื้อนี้จากทางน้ำลาย น้ำนม น้ำดื่ม อุจจาระ ปัสสาวะ เป็นต้น หากมีบาดแผลแล้วไปสัมผัสเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี เชื้ออาจเข้าไปทางบาดแผล หรือรอยถลอกได้

วิธีการรักษา : เป็นการรักษาตามอาการเช่นเดียวกับโรคไวรัส ตับอักเสบ เอ และถ้าจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวดีขึ้น ควรให้พักผ่อนมากๆ ไม่ควรออกกําลังกายหักโหม โรคจะสงบลงได้เองเมื่อร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานดีขึ้น

         ไวรัสตับอักเสบ ซี การติดเชื้อส่วนใหญ่จากการถ่ายเลือด เช่น กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดที่ใช้เข็มร่วมกัน ติดต่อจากแม่สู่ลูก จากเพศสัมพันธ์ เป็นต้น ตับอักเสบจากไวรัส ซี นี้ นอกจากจะทําให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน บางราย อาจมีอาการรุนแรงถึงตายได้ ถ้าเป็นชนิดเรื้อรัง มีแนวโน้มจะกลายเป็นตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้ ซึ่งแน่นอนว่าคงจะต้องเสียชีวิตในไม่ช้าช้อนกลางสร้างสุขภาพ

อ่านเพิ่ม เติมความหมาย