Course Content
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว16101 ประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2
About Lesson

การเกิดสุริยุปราคา

         สุริยุปราคา หรือ สุริยุคราส (Total Solar Eclipse) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และโลก โคจรมาเรียงอยู่ในแนวเดียว กัน โดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เกิดขึ้นเฉพาะในวันที่ดวงจันทร์มีวิถีตรงกับจันทร์ดับ เมื่อสังเกตจากพื้นโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์ โดยอาบังมิตหมดทั้งดวงหรือบางส่วนก็ได้ ในแต่ละปีสามารถเกิดสุริยุปราคาบนโลกได้อย่างน้อย 2 ครั้งสูงสุดไม่เกิน 5 ครั้ง

เมื่อดวงจันทร์โคจรมาบดบังดวงอาทิตย์ทั้งหมดไว้จะทำให้เกิดเงา 2 ชนิด คือ เงามืดและเงามัว

         เงามืด (Umbra) เป็นเงาส่วนที่มืดที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณที่อยู่ตรงกับดวงจันทร์

          เงามัว (Penumbra) เป็นเงาส่วนที่ยังมีแสงสลัว โดยเงามัวนี้จะอยู่รอบ ๆ เงามืดอีกที             

สุริยุปราคาแบ่งออกเป็น  3 ประเภท

1. สุริยุปราคาเต็มดวง (Total Solar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรมาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และโลกในระนาบเดียวกัน และบดบังดวงอาทิตย์ไว้ทั้งหมด ทำให้เกิดเงามืด และบริเวณที่เกิดเงามืดจะคล้ายกับเวลากลางคืน โดยในการเกิดแต่ละครั้งมีเพียงบางพื้นที่เท่านั้นที่จะสามารถเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้

2. สุริยุปราคาวงแหวน (Annular Solar Eclipse) เกิดขึ้นในลักษณะคล้ายสุริยุปราคาเต็มดวง แต่เนื่องจากเรามองเห็นดวงจันทร์ในขณะนั้นมีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์ จึงยังเหลือขอบของดวงอาทิตย์ให้เห็นเป็นแสงสว่างได้

3. สุริยุปราคาบางส่วน (Partial Solar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรมาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และโลก แต่ไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกันโดยสมบูรณ์ ดวงจันทร์จึงบดบังดวงอาทิตย์เพียงบางส่วนเท่านั้น เราจึงเห็นดวงอาทิตย์ในลักษณะเป็นเสี้ยว

การเกิดจันทรุปราคา

          ปรากฏการณ์จันทรุปราคา (Lunar Eclipse) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาเรียงตัวอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยการเรียงอยู่ระนาบเดียวกัน ต้องเป็นช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวง (ขึ้น 15 ค่ำ) เท่านั้นปรากฏการณ์เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์มีการโคจรเข้าไปในเงาของโลก การที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปในงาโลก จะทำให้ดวงจันทร์เกิดการเว้าแหว่ง และหากตวงจันทร์เคลื่อนที่เข้าไปในเงามืดของโลกพอดี จะทำให้เรามองเห็นดวงจันทร์มีลักษณะกลมโตและมีสีน้ำตาลอมแดง เรียกว่า จันทรุปราคาเต็มดวง

จันทรุปราคา มี 3 ประเภท

1. จันทรุปราคาเต็มดวง (Total Eclipse)  เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ทั้งดวงเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก บางครั้งจะเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดง หรือที่เรียกว่า พระจันทร์สีเลือด  การที่เรามองเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงมีสีดังสีเลือดก็เนื่องมาจากโลกมีบรรยากาศห่อหุ้มอยู่  เมื่อเงาดำของโลกทอดไปทับดวงจันทร์ บรรยากาศบางส่วนที่ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์จะสะท้อนแสงไปยังเงาดำนั้นบ้าง จึงทำให้เกิดแสงสลัวๆ ปรากฏขึ้น

2. จันทรุปราคาบางส่วน (Partial Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อบางส่วนของดวงจันทร์เคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในเงามัว

3. จันทรุปราคาเงามัว (Penumbra Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามัวของโลก โดยมิได้เคลื่อนเข้าไปในเงามืดแม้แต่น้อย ดวงจันทร์จึงยังคงมองเห็นเต็มดวงอยู่ แต่ความสว่างลดน้อยลง สีออกส้มแดง จันทรุปราคาชนิดนี้หาโอกาสดูได้ยาก เพราะโดยทั่วไปดวงจันทร์มักจะผ่านเข้าไปในเงามืดด้วย

ปัจจัยในการเกิดจันทรุปราคา   จันทรุปราคาไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เนื่องจากระนาบการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์และระนาบการโคจรของดวงจันทร์รอบโลกทำมุมกัน 5 องศา ในการเกิดจันทรุปราคา ดวงจันทร์จะต้องอยู่บริเวณจุดตัดของระนาบวงโคจรทั้งสอง และต้องอยู่ใกล้จุดตัดนั้นมาก จึงจะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงหรือจันทรุปราคาบางส่วนได้

         ระยะห่างระหว่างโลกและดวงจันทร์มีผลต่อความเข้มของจันทรุปราคาด้วย นอกจากนี้ หากดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากโลกมากที่สุด จะทำให้ระยะเวลาในการเกิดจันทรุปราคานานขึ้น 

          โลกเป็นดาวเคราะห์ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง หากแต่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ ด้านที่หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์เป็นเวลากลางวัน ส่วนด้านตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เป็นเวลากลางคืน  โลกบังแสงอาทิตย์ทำให้เกิดเงา 2 ชนิด คือ เงามืด และเงามัว

     เงามืด (Umbra) เป็นเงาที่มืดที่สุด เนื่องจากโลกบังดวงอาทิตย์จนหมดสิ้น หากเราเข้าไปอยู่ในเขตเงามืด จะไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้เลย 

     เงามัว (Penumbra) เป็นเงาที่ไม่มืดสนิท เนื่องจากโลกบังดวงอาทิตย์เพียงด้านเดียว หากเราเข้าไปเขตเงามัว เราจะมองเห็นบางส่วนของดวงอาทิตย์โผล่พ้นส่วนโค้งของโลก เงาที่เกิดขึ้นจึงไม่มืดนัก 

0% Complete