การเกิดลมบก ลมทะเล และ ลมมรสุม
ลมเกิด จากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิอากาศเหนือบริเวณ 2 บริเวณ โดยอากาศเหนือบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจะเคลื่อนที่สูงขึ้น อากาศเหนือบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าเข้ามาแทนที่
ลมบก
– ลมบก เกิดในเวลากลางคืน
– อุณหภูมิเหนือพื้นน้ำสูงกว่าอุณหภูมิเหนือพื้นดิน
– อากาศเหนือพื้นน้ำ ลอยตัวสูงขึ้น อากาศเหนือพื้นดิน เข้ามาแทนที่
– ลมพัดจากฝั่งออกสู่ทะเล
– ชาวประมงใช้ประโยชน์จากลมบกในการพัดเรือออกจากฝั่งเพื่อ
ออกไปหาปลาในเวลากลางคืน

ลมทะเล
– ลมทะเล เกิดในเวลากลางวัน
– อุณหภูมิเหนือพื้นดินสูงกว่าอุณหภูมิเหนือพื้นน้ำ
– อากาศเหนือพื้นดิน ลอยตัวสูงขึ้น อากาศเหนือพื้นน้ำเข้ามาแทนที่
– ลมพัดจากทะเลเข้าหาฝั่ง
– ลมทะเลให้ความรู้สึกที่เย็นสบายเมื่อเวลาเราไปเที่ยวทะเล
– ชาวประมงจะใช้ลมนี้ช่วยพัดเรือเข้าสู่ฝั่ง

การเกิดลมบก ลมทะเล มีผลดังนี้
– ทำให้บริเวณชายฝั่งมีลมพัดตลอดเวลา
– มีผลต่อการเดินเรือของชาวประมง
– มีผลต่อปริมาณความชื้นในอากาศและอุณหภูมิของอากาศบริเวณชายฝั่ง
– ส่งผลต่อการกัดเซาะชายฝั่ง
– มีประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้าโดยการติดตั้งกังหันลมบริเวณชายฝั่ง

ลมมรสุม
มรสุม เป็นลมประจำฤดูที่เกิดบริเวณเขตร้อนของโลก เกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทวีปและอุณหภูมิเหนือพื้นมหาสมุทร
- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ : กลางเดือนพฤษภาคม ถึง กลางเดือนตุลาคม
- มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ : กลางเดือนตุลาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์
ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ : ฤดูฝน
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กลางเดือนพฤษภาคม ถึง กลางเดือนตุลาคม นำมวลอากาศขึ้นจากมหาสมุทรอินเดียมาสู่ประเทศไทยทำให้มีเมฆมาก ฝนตกชุกทั่วไปตามบริเวณชายฝั่งทะเล

ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ : ฤดูหนาว
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ กลางเดือนตุลาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์ พัดพามวลอากาศเย็นแถบประเทศมองโกเลียและจีนเข้าสู่ประเทศไทยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือหนาวเย็นและแห้งแล้ง

เพิ่มเติม
